TORONTO, Sept. 27, 2018 (GLOBE NEWSWIRE) -- การแถลงข่าวในวันนี้ที่สมาคมระหว่างประเทศเพื่อการศึกษามะเร็งปอด (IASLC's) ครั้งที่ 19 การประชุมโลกเกี่ยวกับโรคมะเร็งปอด (WCLC) ได้ให้ความสำคัญกับงานวิจัยที่เป็นนวัตกรรมใหม่ล่าสุดของทั้งเซลล์มะเร็งปอดขนาดเล็ก และที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก Frances Shepherd, M.D. , FRCPC, ผู้อำนวยการกิตติมศักดิ์ WCLC, นักวิทยาเนื้องอกทางการแพทย์ที่ศูนย์มะเร็ง Princess Margaret Cancer Centre และอดีตประธาน IASLC (ปี 2548-2550) เปิดการประชุมด้วยความสำคัญในการเปลี่ยนแปลงการปฎิบัติของข้อมูลที่ได้แบ่งปันในเช้าวันนี้ที่การประชุมวิชาการประจำปี พ.ศ. 2561 Dr. Shepherd ยังคงกล่าวต่อเกี่ยวกับการให้การผ่าตัดไม่ได้้ในปัจจุบันและอัตราการรักษาที่ต่ำของมะเร็งปอดระยะที่ 3 ซึ่งมีถึง 1/3 ของมะเร็งปอดทั้งหมด ข้อมูลแหวกแนวที่นำเสนอในระหว่างการประชุมสัมมนาในวันนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าในการรักษาโรคที่ไม่เห็นมานานหลายปี
การศึกษาของ PACIFIC แสดงให้เห็นว่า durvalumab ช่วยเพิ่มอัตราการรอดชีวิตโดยรวมในผู้ป่วยที่มีมะเร็งปอดชนิดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้และไม่มีการเติบโตหลังจากการได้รับเคมีบำบัด
ผลการวิจัยล่าสุดจากการทดลองของ PACIFIC พบว่า durvalumab แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการที่มีนัยสำคัญทางสถิติและมีความหมายทางการรักษาต่อการรอดชีวิตโดยรวม (OS) เทียบกับยาหลอกสำหรับผู้ป่วยระยะที่ 3 มะเร็งปอดชนิดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้ (NSCLC) และไม่มีการเติบโตหลังจากเคมีบำบัด (CRT)
ตามที่ Scott J. Antonia, M.D., Ph.D., ผู้อำนวยการภาควิชาของกรมมะเร็งเนื้องอกช่องอกทีศูนย์มะเร็ง่ H. Lee Moffitt Cancer Centre และสถาบันวิจัยใน Tampa และศาสตราจารย์วิทยาเนื้องอกวิทยาที่มหาวิทยาลัย University of South Florida College of Medicine ผลดังกล่าวมีความสำคัญเนื่องจาก PACIFIC เป็นการทดลองแรกที่แสดงให้เห็นถึงข้อดีในการรอดชีวิตจาก CRT ในประชากรผู้ป่วยโรคนี้
Dr. Antonia กล่าวว่า "ผลการทดลองของ PACIFIC เป็นหลักฐานที่น่าสนใจสำหรับประโยชน์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนซึ่งได้รับจากการรักษาด้วย durvalumab เป็นมาตรฐานในการรักษาผู้ป่วยโรคนี้ "Durvalumab นำเสนอความก้าวหน้าครั้งสำคัญครั้งแรกในการติดเชื้อในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นความหวังใหม่สำหรับผู้ป่วย NSCLC ระยะที่ 3 ที่ไม่สามารถผ่าตัดได้และไม่มการเติบโตหลังจากทำ CRT"
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็ม ที่นี่
การวิเคราะห์ระหว่างช่วงเวลาของ ALTA-1L แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ brigatinib ในฐานะตัวเลือกแรกในการรักษามะเร็งปอดชนิด ALK-positive ที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก
การวิเคราะห์ระหว่างช่วงเวลาของการศึกษาของ ALTA-1L ได้ให้ข้อมูลเชิงเปรียบเทียบแรกเกี่ยวกับประสิทธิภาพและความปลอดภัยของ brigatinib เทียบกับ crizotinib ซึ่งเป็นมาตรฐานแรกของเครื่องมือเปรียบเทียบการดูแลรักษาผู้ป่วยโรคเซลล์มะเร็งปอดที่ไม่ใช่เซลล์ขนาดเล็ก (NSCLC) anaplastic lymphoma kinase (ALK) inhibitor-naive ALK+
นักวิจัยแกนนำ Ross Camidge, MD, Ph.D., Joyce Zeff ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยโรคมะเร็งปอดมหาวิทยาลัยและศูยน์มะเร็ง University of Colorado Cancer Center และทีมวิจัยพบว่าในหนึ่งปีหลังการรักษา 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วย brigatinib ยังคงปราศจากการเติบโตเมื่อเทียบกับ ร้อยละ 43 ของผู้ที่รับการรักษาด้วย crizotinib และความเสี่ยงต่อการเติบโตหรือเสียชีวิตลดลงร้อยละ 51 เมื่อเทียบ crizotinib กับ brigatinib
"ข้อมูลระหว่างช่วงเวลาแสดงให้เห็นว่า brigatinib ได้รับการตั้งให้กลายเป็นตัวเลือกแรกในการรักษาโรคมะเร็งปอด ALK+" Dr. Camidge กล่าว "แม้จะมีเพียง 9-11 เดือนของการติดตามผลประสิทธิภาพของ brigatinib จะดีอย่างเห็นได้ชัดกว่า crizotinib"
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็ม ที่นี่
การศึกษาของ NELSON แสดงให้เห็นว่าการตรวจด้วย CT สำหรับการจัดการปริมาณก้อนเนื้องอกช่วยลดอัตราการตายของโรคมะเร็งปอดได้มากกว่าร้อยละห้าสิบ
ผลการวิจัยล่าสุดจากผลการรักษาโรคมะเร็งปอดที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป การศึกษาของ NELSON แสดงให้เห็นว่าการใช้การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT) ที่มีโปรโตคอลการจัดการเนื้องอกที่ไม่ซ้ำกันทำให้การเสียชีวิตลดลงร้อยละ 26 ในผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดในช่วงการศึกษาติดตามผลแปดปี
Harry J. De Koning, M.D., Ph.D., ศาสตราจารย์ด้านการสาธารณสุขและการประเมินผลการรักษาศูนย์การแพทย์ Erasmus, Rotterdam ประเทศเนเธอร์แลนด์ และทีมงานได้ริเริ่มการศึกษาเพื่อประเมินผล้การตรวจด้วย CT ควบคู่ไปกับการเพิ่มระยะเวลาในการรักษา เกี่ยวกับอัตราการตายของโรคมะเร็งปอด
Dr. De Koning กล่าวว่า "การค้นพบนี้แสดงให้เห็นว่าการตรวจด้วย CT เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการประเมินและจัดการปริมาณก้อนเนื้องอกในผู้ป่วยมะเร็งปอด ซึ่งมักนำไปสู่การตรวจหาก้อนเนื้อที่น่าสงสัยและการแทรกแซงทางศัลยศาสตร์ที่ตามมา และสามารถส่งผลกระทบต่ออัตราการรอดชีวิตได้" "ผลลัพธ์เหล่านี้สามารถนำมาใช้เพื่อแจ้งและกำกับการติดตามและแทรกแซงทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดได้"
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็ม ที่นี่
Atezolizumab ช่วยเพิ่มผลลัพธ์สำหรับโรคมะเร็งปอดเซลล์ขนาดเล็กเมื่อเพิ่มเข้ากับการบำบัดมาตรฐานของการดูแล
การศึกษาของ IMpower133 ประสบความสำเร็จในการบรรลุจุดสิ้นสุดของผู้ป่วยหลายราย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเพิ่ม 1L atezolizumab ไปสู่ carboplatin และ etoposide มาตรฐาน ทำให้การรอดชีวิตโดยรวมที่ยืนยาว (OS) และการรอดชีวิตที่ไม่มการเติบโต (PFS) ในผู้ป่วยมะเร็งปอดเซลล์ขนาดเล็กในระยะลุกลาม (ES-SCLC) เมื่อเปรียบเทียบกับการรักษาด้วย carboplatin และ etoposide เพียงอย่างเดียว
ตามที่ผู้นำเสนอ Stephen V. Liu, M.D., รองศาสตราจารย์ด้านการแพทย์แห่งมหาวิทยาลัย Georgetown University และสมาชิกคณะกรรมการทดลองกล่าวว่า ผลการวิจัยเหล่านี้มีศักยภาพในการเปลี่ยนแนวการรักษาในปัจจุบันสำหรับ ES-SCLC
Dr. Liu กล่าวว่า "มาตรฐานการดูแลรักษาโรคมะเร็งปอดเซลล์ขนาดเล็กไม่ได้รับการเปลี่ยนแปลงมานานนับหลายสิบปี ซึ่งส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์" "นี่เป็นการศึกษาครั้งแรกในรอบ 30 ปีที่แสดงให้เห็นถึงความอยู่รอดที่ดีขึ้นในการบำบัดรักษาครั้งแรกของโรคร้ายแรงนี้ นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นในด้านเนื้องอกวิทยา และเราพอใจที่ได้เห็นความคืบหน้าที่แท้จริงเกี่ยวกับ SCLC"
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็ม ที่นี่
การศึกษา LUME-Meso แสดงให้เห็นว่า nintedanib ร่วมกับ pemetrexed/cisplatin ไม่ช่วยให้ปราศจากการเติบโตหรือมีชีวิตรอดโดยรวมในผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดชนิดร้ายแรงของ epithelioid subtype
ผลจากการศึกษา LUME-Meso แสดงให้เห็นว่าสารยับยั้ง angiokinase triple angiotensin nintedanib ร่วมกับการดูแลมาตรฐาน pemetrexed / cisplatin ไม่ส่งผลกระทบต่อการอยู่รอดปราศจากการเติบโต (PFS) และการรอดชีวิตโดยรวม (OS) สำหรับผ ผู้ป่วยมะเร็งเยื่อหุ้มปอดชนิด epithelioid histology ที่ี่ไม่สามารถผ่าตัดได้ (MPM)
เมื่อข้อมูลระยะที่ 2 ของ LUME-Meso แสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยที่มี histology epithelioid ได้รับประโยชน์ที่ดีที่สุดจาก nintedanib เพิ่มเข้ากับ pemetrexed / cisplatin ในแง่ของการปรับปรุง PFS เทียบกับยาหลอก และแนวโน้มการปรับปรุง OS Giorgio V. Scagliotti, M.D., Ph.D. แห่งมหาวิทยาลัยUniversity of Turin ภาควิชาเนื้องอกวิทยา และโรงพยาบาล S. Luigi ประธานสมาคมระหว่างประเทศเพื่อการศึกษามะเร็งปอด (IASLC) และทีมงานแก้ไขแนวทางระยะที่ 3 เพื่อมุ่งเน้นเฉพาะในกลุ่มย่อยนี้
"อย่างไรก็ตามผลของ LUME-Meso ระยะที่ 3 ไม่ได้ยืนยันว่า nintedanib ร่วมกับ pemetrexed/cisplatin ช่วยยืดชีวิตผู้ป่วย" Dr. Scagliotti กล่าว "อย่างไรก็ตามการทดลองยืนยันความจำเป็นในการศึกษายืนยันที่เข้มงวด ขนาดที่เหมาะสม ที่จะท้าทายมาตรฐานของการดูแลใน Mesothelioma ร้ายแรงขั้นสูง"
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็ม ที่นี่
มีการถ่ายทอดสดการประชุมสื่อประจำวัน ที่นี่
ประวัติของ WCLC
การประชุมโลกเกี่ยวกับโรคมะเร็งปอด (WCLC) เป็นงานประชุมใหญ่ที่สุดในโลกที่อุทิศให้กับโรคมะเร็งปอดและมะเร็งช่องอกอื่น ๆ โดยดึงดูดนักวิจัย แพทย์ และผู้เชี่ยวชาญกว่า 7,000 รายจากกว่า 100 ประเทศทั่วโลก การประชุมจะครอบคลุมหลากหลายสาขาวิชา และเปิดตัวการศึกษาวิจัยและผลการทดลองทางการรักษา อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://wclc2018.iaslc.org/ ติดตามการประชุมบนโซเชียลมีเดียด้วย: #WCLC2018
ประวัติของ IASLC
สมาคมระหว่างประเทศเพื่อการศึกษามะเร็งปอด (IASLC) เป็นองค์กรระดับโลกเพียงแห่งเดียวที่อุทิศตนเพื่อการศึกษาโรคมะเร็งปอดและมะเร็งช่องอกอื่น ๆ ก่อตั้งขึ้นในปีพ. ศ. 2517 สมาชิกของสมาคมประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งปอดมากกว่า 7,500 รายทั่วทุกสาขาวิชาในกว่า 100 ประเทศสร้างเครือข่ายระดับโลกที่ทำงานร่วมกันเพื่อพิชิตโรคมะเร็งปอดและทรวงอกทั่วโลก สมาคมยังตีพิมพ์ Journal of Thoracic Oncology, สิ่งตีพิมพ์ด้านการศึกษาและข้อมูลสำหรับหัวข้อที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน ตรวจหาวินิจฉัย และรักษามะเร็งช่องอกทั้งหมด อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.iaslc.org คุณสามารถติดตาม IASLC ได้บน Twitter, Facebook, LinkedIn และ Instagram
รายชื่อติดต่อ: | |
Lisa Rivero | Becky Bunn, MSc |
รองประธาน | ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ |
lrivero@jpa.com| +1 617-657-1305 | Becky.Bunn@IASLC.org| +1 720-254-9509 |